สุเทพ อู่อ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เยียวยาปประกันสังคม ซับซ้อน ล่าช้า แรงงานเข้าไม่ถึง วันที่ 3 กันยายน 2564 การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ณ รัฐสภาซึ่งเป็นวันที่ 4 นายสุเทพ อู่อ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ประเด็นเรื่อง”การเยียวยาประชาชนจากระบบประกันสังคม”
นายสุเทพ โจมตีการบริหารงานที่ผิดพลาดของ รมว.แรงงานว่า
การเยียวยามีความซับซ้อน ทำให้แรงงานเข้าไม่ถึงความช่วยเหลือ ได้รับเงินเยียวยาล่าช้า ตกหล่น เลือกสั่งปิดกิจการ ส่วนแรงงานข้ามชาติก็ไม่ได้รับการดูแล อีกทั้ง นายสุชาติ ยังโอ้อวดว่าฉีดวัคซีนให้แรงงานในแคมป์ได้ 50% แต่ตนได้ข้อมูลว่าฉีดไป 8 หมื่นกว่าคน ซึ่งตัวเลขแรงงานมี 2 แสนคน
นอกจากนี้ ยังมีพฤติกรรมข่มขู่ผู้ที่ไปยื่นหนังสือให้ติดตามค่าชดเชยจากโรงงานที่ถูกปิด มีพฤติกรรมไม่รักษาผลประโยชน์แรงงาน ไร้มนุษยธรรม เอาอำนาจตำแหน่งสร้างบารมี ทำพฤติกรรมข่มขู่คุกคามแรงงานที่เดือดร้อน จึงไม่อาจไว้วางใจนายสุชาติ ให้เป็นรมว.แรงงาน ต่อไปได้แม้แต่วันเดียว
“เรื่องการเยียวยาให้พี่น้องผู้ใช้แรงงาน นายจ้าง ลูกจ้าง ที่ได้รับผลกระทบ ท่านกลับใช้เงื่อนไขต่างๆ มีความซับซ้อน”
“ทำให้คนงาน แรงาน เข้าไม่ถึงเรื่องของการเยียวยาที่รอคอย กว่าจะได้รับการเยียวยา ผ่านไปแล้วจากการประกาศเป็นเดือนๆ นี่คือสิ่งที่เกิดขึนจากการดำเนินการ ครม. อนุมัติ 29 มิ.ย.64 ดำเนินการกันไปใช้เวลากว่าจะได้เงิน 4 ส.ค. 64”
“ถามแล้วช่วงเวลาเหล่านั้นแรงงานตกงาน ไม่มีเงิน เอาเงินที่ไหนไปประทังชีวิต ซึ่งเห็นได้ชัดเจนชีวิตวันนี้มีหนี้สิน มากมาย พ่อแม่ก็ต้องเลี้ยงดู เป็นความกดทับของพี่น้องแรงงานที่ท่านดูแล” นายสุเทพ กล่าว
ด้าน นายสุชาติ ชี้แจงว่า การเยียวยาแรงงานไม่ได้เฉพาะช่วยเหลือแต่ลูกจ้าง แต่กระทรวงแรงงานช่วยเหลือนายจ้างด้วย การปิดแคมป์คนงานช่วงที่ตัวเลขสูงขึ้น ตนอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องปฏิบัติ เนื่องจากฝ่ายวิเคราะห์มองว่าแคมป์คนงาน 626 แคมป์ในกทม. ประมาณ 8 หมื่นคน อาศัยในกทม. และจ.นนทุบรี เรากลัวระหว่างแวะข้างทาง เราปิดเพื่อให้จบ ปิดแล้วต้องจบ มีการตรวจและฉีดวัคซีน 100% ซึ่งวันนี้แคมป์นงานในกทม. และจังหวัดใกล้เคียงฉีดวัคซีนครบหมดแล้ว
พิธา เปิดข้อมูลซัดรัฐบาลเท ไฟเซอร์-โคแว็กซ์ กีดกันจนม้ามืด ซิโนแวค เข้าวิน
รัฐบาลเท ไฟเซอร์ ทิ้งลงอ่าวไทย พิธา เปิดข้อมูลกลางสภา ซัดรัฐบาลเท ไฟเซอร์-โคแว็กซ์ กีดกันจนได้ม้ามืดซิโนแวค อภิปรายไม่ไว้วางใจ – 2 กันยายน 2564 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล วันที่ 3 เปิดฉากไล่อัด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไร้ความสามารถ บริหารโควิดผิดพลาด ตลอดจนความโปร่งใสในการซื้อยา เวชภัณฑ์ จนไม่สามารถไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดิน
โดยเฉพาะประเด็นการจัดหาวัคซีนไฟเซอร์ ที่ล่าช้า และไม่เข้าร่วม โคแว็กซ์ (Covax) นาย พิธา ได้ขอกล่าวหาว่ารัฐบาลว่า ตั้งใจที่จะเทวัคซีนคุณภาพทิ้งลงกลางอ่าวไทย และกล้าพูดเลยว่ารัฐบาลเทไมตรีจิตของวัคซีนคุณภาพทิ้งกลางอ่าวไทย และแทนที่รัฐบาลจะตาม ไฟเซอร์ แต่ ไฟเซอร์ กลับต้องตามรัฐบาลไทย
วันที่ 25 สิงหาคม 2563 ไฟเซอร์ แจ้งหน่วยงานในต่างประเทศของไทยว่าไม่ได้รับการตอบกลับจากกรมควบคุมโรค และสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ที่ติดต่อไปตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 แทนที่รัฐบาลอื่นเขาต้องตามวัคซีนเพราะเป็นความต้องการ โดยรัฐบาลที่ทำเต็มที่จะต้องเป็นเช่นรัฐบาลของประเทศอิสราเอลที่โทรตามหาซีอีโอไฟเซอร์ มากกว่า 30 ครั้ง นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นบินไปหา ซีอีโอของ ไฟเซอร์ ด้วยตนเอง ทุกคนต้องการวัคซีนคุณภาพ วัคซีนที่หลากหลาย และวัคซีนที่พอเพียง แต่รัฐบาลไทยอย่างน้อยที่สุดก็คือเกียร์ว่าง อย่างมากที่สุดคือเฉยเมย “ท่านตั้งใจที่จะไม่พิจารณาม้าตัวนี้เลย ไม่ใช่การแทงม้าเดียว แต่เป็นการล็อกผลม้า”
ไฟเซอร์ ต้องมาตามว่าจะเอาหรือไม่ แค่นั้นไม่พอในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 ไทยหารือกับ ไฟเซอร์ เป็นครั้งที่ 2 ที่บริษัทขอให้ประเทศไทยเร่งพิจารณาตัดสินใจโดยเร็วภายในปี 2563 ไฟเซอร์ แทบจะใส่พานให้รัฐบาลไทยเลยด้วยซ้ำ และต่อมาเอกสารการสื่อสารระหว่างไทยและ โคแว็กซ์ สรุปได้ชัดว่า โคแว็กซ์ เป็นห่วงไทยมากกว่ารัฐบาลไทยเสียอีก
ขณะเดียวกัน พิธาได้เปิดไทม์ไลน์การติดต่อระหว่างไทยและ โคแว็กซ์ ว่าเจรจากันตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 จากนั้นประเทศไทยก็ขาดการสื่อสารไม่ตอบข้อความไปยัง โคแว็กซ์ ซึ่งวันที่ 5 พฤศจิกายนเป็นครั้งสุดท้ายที่ประเทศไทยติดต่อกับ โคแว็กซ์ และวันที่ 18 พฤศจิกายน โคแว็กซ์ ติดต่อมายังประเทศไทยเพื่อติดตามความคืบหน้าอีกครั้ง จนกระทั่งวันที่ 9 ธันวาคม โคแว็กซ์ ได้ส่งอีเมลมายังประเทศไทยว่าตกลงไทยจะเข้าร่วม โคแว็กซ์ หรือไม่ ท่านเกียร์ว่างหรือไม่มีมารยาทในการทำงาน
และช่วงที่สองของการทูตวัคซีนคือเดือนเมษายน 2564 ที่เบื้องหน้ารัฐบาลไทยมั่นใจว่ามีวัคซีนชื่นชมในคุณภาพ ผลิตได้เยี่ยม พร้อมส่ง แต่เบื้องหลังไทยไปขอรับบริจาควัคซีน แอสตร้าเซนเนก้า จากประเทศหนึ่ง ไม่รู้ว่าจะใช้คำว่าต่อหน้ามะพลับ ลับหลังตะโก, ปากกล้าขาสั่น, ตีสองหน้า, หน้าอย่างใจอย่าง หรือหนวดเต่า เขากระต่ายได้หรือไม่ ต่อมาไทยไปขอรับบริจาควัคซีนจากอีกหนึ่งสถานทูตคือวัคซีนจากฝรั่งเศส แต่สุดท้ายก็ได้รับคำตอบว่าเขาจะขอบริจาคผ่าน โคแว็กซ์ เท่านั้น
แนะนำ : เคล็ดลับต่างๆ | เว็บรวมวิธีต่างๆ How to | จัดอันดับซีรีย์ | รีวิวครีม